ใบสาบเสือ สาบเสือ
ใบสาบเสือ หรือ Siam weed จัดเป็นพืชรุกรานต่างถิ่นที่สามารถเติบโต และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีเมล็ดจำนวนมาก และเมล็ดสามารถลอยตามลมได้
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Eupatorium odoratum L.
ชื่อพ้อง : E.
odoratum (L.f.) Koster ; Chromolaena odorata (L.) King & Robins.
วงศ์ : Compositae
หรือ
Asteraceae
ชื่อสามัญ :
Siam weed, Bitter bush, Devil weed
สาบเสือเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา ถูกนำเข้ามาสู่ประเทศอินเดียประมาณปี ค.ศ. 1840 จากนั้น จึงมีการแพร่กระจายสู่อ่าวเบงกอล พม่า และไทยตามมา ส่วนข้อสันนิษฐานหนึ่งจากสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่กล่าวถึงการแพร่กระจายของสาบเสือว่า สาบเสือเริ่มเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงหลังสงครามครั้งที่ 1
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
สาบเสือเป็นไม้ขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านจำนวนมากตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น ทำให้มองเห็นเป็นทรงพุ่มหนาทึบ และกิ่งมีลักษณะยาวมากกว่าลำต้น ตามลำต้น และกิ่งมีขนนุ่มปกคลุม ลำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร ทั้งลำต้น และกิ่งมีลักษณะค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยม ลำต้นเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่ค่อนข้างเปราะ และหักง่าย เปลือกลำต้นมีสีขาวนวลแกมเขียว
ใบ
ใบสาบเสือ แตกออกบริเวณข้อกิ่ง ออกเป็นใบเดี่ยวตรงข้ามเป็นคู่ๆ ใบมีลักษณะเป็นรูปหอก ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ปลายใบแหลม โคนใบสอบเป็นรูปลิ่ม มีเส้นใบมองเห็นได้ชัดเจน ตัวใบด้านล่าง และด้านบนมีขนปกคลุม ใบมีสีเขียวสด ใบกว้าง 3-6 ซม. ยาว 5-10 ซม. ก้านใบยาวประมาณ 6 ซม.
ดอก
ดอกสาบเสือออกดอกเป็นช่อเป็นกระจุกคล้ายร่ม แทงออกบริเวณปลายยอด เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 มม. ดอกมีสีม่วงแกมน้ำเงินหรือสีม่วงอ่อน หากมองในระยะไกลจะออกสีขาว ช่อดอกย่อยมีดอกขนาดเล็ก 20-25 ดอก มีลักษณะรูปทรงกระบอกกึ่งรูประฆังคว่ำ ดอกมีชั้นใบประดับ 4-5 ชั้น ดอกวงนอกมีลักษณะเป็นเส้นสีขาว โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด และตรงปลายจะแยกออกเป็น 5 กลีบ ดอกจะออกในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน
ผล และเมล็ด
ผลสาบเสือ 1 ผล มาจากดอก 1 ดอก ผลมีขนาดเล็ก เรียวยาว และบางสีดำ ผลมีลักษณะเป็นเหลี่ยม 5 เหลี่ยม ยาวประมาณ 4 มิลลิเมตร ส่วนปลายผลมีขนสำหรับทำหน้าที่พยุงผลให้ลอยตามลมได้
ผล และเมล็ด
ผลสาบเสือ 1 ผล มาจากดอก 1 ดอก ผลมีขนาดเล็ก เรียวยาว และบางสีดำ ผลมีลักษณะเป็นเหลี่ยม 5 เหลี่ยม ยาวประมาณ 4 มิลลิเมตร ส่วนปลายผลมีขนสำหรับทำหน้าที่พยุงผลให้ลอยตามลมได้
การแพร่กระจาย
สาบเสือเป็นไม้ล้มลุกอายุนานมากกว่า 1 ปี เป็นไม้กลางแจ้งที่ชอบแสงแดดจัด พบได้ในทุกภาคของประเทศไทย ทั้งในที่ราบ และเชิงเขา สามารถเติบโต และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในสภาพที่แห้งแล้ง และที่ชื้นแฉะ ประกอบกับเป็นพืชที่มีเมล็ดจำนวนมาก และเมล็ดสามารถลอยตามลมได้
ประโยชน์สาบเสือ
• สารสกัดจากใบใช้เป็นยาป้องกัน และกำจัดแมลงในแปลงเกษตร เช่น หนอนกระทู้ ด้วง และเพลี้ยอ่อน เป็นต้น
• ใช้ทาบริเวณแมลงกัดต่อย ลดอาการปวด คันของแผล
• ใบใช้ขยี้ทาตามร่างกายสำหรับป้องกันยุงกัด
• ถ่านจากต้นสาบเสือใช้เป็นตัวดูดวับสารโลหะหนักในน้ำเสีย
• ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน
ผลเสียของสาบเสือ
สาบเสือจัดเป็นพืชรุกรานต่างถิ่นที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก ออกเมล็ดจำนวนมาก และเมล็ดสามารถลอยตามแรงลมได้ รวมถึงเป็นพืชที่ทนต่อทุกสภาพได้ดีทั้งภาวะแห้งแล้ง และน้ำท่วม
สรรพคุณสาบเสือ
• ลำต้น
– เป็นยาแก้ปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
• ใบสาบเสือ
– ช่วยในการห้ามเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวเร็วขึ้น
– บรรเทาอาการไข้
– ลดอาการเจ็บคอ
– ต้านการอักเสบ และติดเชื้อของแผล
– รักษาแผลติดเชื้อ แผลเป็นหนอง
– แก้ตาฟาง แก้ตาแฉะ
– แก้ริดสีดวงทวารหนัก
• ดอก
– เป็นยาแก้ร้อนใน กระหายน้า
– ใช้ต้มน้ำดื่มเป็นชูกำลัง แก้อ่อนเพลีย
– ช่วยบำรุงหัวใจ
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
สารประกอบ 4,5,6,7-Tetramethoxy flavone จากใบสาบเสือมีฤทธิ์ช่วยให้เลือดจากบาดแผลแข็งตัวได้เร็วขึ้นที่ช่วยส่งเสริมการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดได้ ทำให้แผลหายได้เร็วขึ้นตามมา
มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้เล็กที่แยกออกจากตัวของหนูตะเภา แต่ลดการบีบตัวของลำไส้เล็กที่แยกออกจากตัวของกระต่าย น้ำต้มสกัดและผลึกสารที่สกัดได้จากต้นนี้ ไม่มีผลอย่างเด่นชัดต่อมดลูกที่แยกออกจากตัวของกระต่าย หากนำไปฉีดเข้าช่องท้องของหนูเล็ก พบมีความเป็นพิษ
เพียงเล็กน้อย